วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2555

แพะ

 แพะ เป็นสัตว์เลี้ยงที่น่าส่งเสริมให้เกษตรกรเลี้ยงเช่นเดียวกับสัตว์ชนิดอื่น เพราะแพะมีเลี้ยงง่าย ขยายพันธุ์ได้เร็ว และมีข้อดีอื่นๆ อีกมาก เช่น

   1. แพะเป็นผลผลิตทั้งเนื้อและนม มีขนาดเล็ก ทำให้ผู้หญิงหรือเด็กสามารถให้การดูแลได้

   2. แพะเป็นสัตว์ที่หาอาหารกินเองได้เก่ง กินอาหารได้หลายชนิด ดังนั้นถึงแม้ฤดูแล้ง แพะก็สามารถหาวัชพืชที่โค-กระบือกิน กินเป็นอาหาร

   3. แพะมีการเจริญเติบโตเป็นหนุ่มเป็นสาวได้เร็ว สามารถผสมพันธุ์แพะได้ตั้งแต่อายุเพียง 8 เดือน

   4. แพะมีความสมบูรณ์พันธุ์สูง แม่แพะมักคลอดลูกแฝด และใช้ระยะเวลาเลี้ยงลูกสั้น จึงทำให้ตั้งท้องได้ใหม่

   5. แพะเป็นสัตว์ที่ใช้พื้นที่ในการเลี้ยงเพียงเล็กน้อย ทั้งพื้นที่โรงเรือนและพื้นที่สำหรับเพาะปลูกพืชอาหารสัตว์
สำหรับแพะ

   6. แพะเป็นสัตว์ที่สามารถปรับเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี ความทนต่อสภาพอากาศแล้ง และร้อนได้ดี

   7. แพะเป็นสัตว์ที่ใช้เป็นอาหารบริโภคสำหรับประชาชนของทุกศาสนาเพราะไม่มีศาสนาใดห้ามบริโภคเนื้อแพะ







แพะ ได้กลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจและได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐให้มีการเลี้ยงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดภาคใต้ตอนล่าง
ปัจจุบัน เกษตรกรในพื้นที่ภาคกลางหันมาเลี้ยงแพะมากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกในการบริโภคเนื้อแพะ นมแพะ โดยการนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารฮาลาลเพื่อการส่งออก
การเลี้ยงแพะในปัจจุบัน เริ่มเป็นที่แพร่หลาย และขยายวงกว้างมากขึ้น ส่วนหนึ่งนั้นมาจากการส่งเสริมผลักดันของภาครัฐ ที่ได้เล็งเห็นว่ากลุ่มผู้บริโภคในบ้านเรา โดยเฉพาะชาวมุสลิม ยังมีความต้องการที่จะใช้แพะเป็นอาหาร และเพื่อประกอบในพิธีกรรมต่างๆ
แต่หากเมื่อเลี้ยงแล้วไม่มีการวางแผนและการจัดการที่ดี แม้ความต้องการบริโภคจะสูงมากเพียงใด ก็ย่อมมีโอกาสประสบกับปัญหาที่จะตามมาเช่นกัน
ปัจจุบันนี้ เกษตรกรหาทางออก เมื่อผลิตผลเกี่ยวกับแพะล้นตลาด โดยการแปรรูปเป็นเครื่องสำอาง สบู่ และอื่นๆ อีกมากมาย
ประโยชน์ของนมแพะนั้น มีไขมันไลโนเลอิค ซึ่งน้ำนมแพะมีสูงถึง 0.95/100 กรัม และกรดไขมันจำเป็นแอลฟาลิโนเลอิคกลุ่มโอเมก้า 3 ในนมแพะมีอยู่ประมาณ 0.03 /100 กรัม ซึ่งกลุ่มนี้จะเป็นตัวเพิ่มภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย
นอกจากนี้ ยังมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสายโซ่สั้นและกลาง ถือว่าเป็นกรดไขมันหลักที่มีประโยชน์ต่อผู้บริโภค
ไขมันในน้ำนมแพะยังเป็นตัวลำเลียงวิตามินที่มีส่วนเพิ่มภูมิต้านทานให้แก่ร่างกายอีกด้วย
คุณจิตติมา จำรัสฉาย เกษตรกรวัย 42 ปี อยู่ซอยบางพลับสาม ถนนราชพฤกษ์ ตำบลบางพลับ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า เดิมตนเป็นคนจังหวัดอุตรดิตถ์และได้ย้ายรกรากมาตั้งถิ่นฐานที่จังหวัด นนทบุรีได้ประมาณ 20 ปี โดยได้มาเช่าแผงซ่อมโทรศัพท์มือถือและขายของเล็กๆ น้อยๆ จนกระทั่งเก็บหอมรอมริบได้เงินมาจำนวนหนึ่ง ก็ได้ไปซื้อที่ดินทิ้งไว้จำนวน 4 ไร่ ซื้อแล้วไม่ได้ทำอะไร แต่ตนเองก็ยังคงประกอบอาชีพขายของและซ่อมโทรศัพท์เหมือนเดิม
ต่อมาทางญาติตนเองได้ป่วยไปโรงพยาบาล ตรวจพบว่า เป็นโรคภูมิแพ้เม็ดเลือดขาวต่ำ ไม่มีแรง ซูบผอม ต้องอาศัยพ่นยาอยู่ตลอดเวลา ต่อมาได้รับคำแนะนำจากเพื่อนบ้านให้ไปซื้อนมแพะมาดื่ม ก็เลยลองไปซื้อมาให้ญาติดื่มดู ปรากฏว่าอาการกลับดีขึ้น ร่างกายที่ซูบผอมก็กลับดีขึ้นด้วย และเมื่อกลับไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกครั้งปรากฏว่าเม็ดเลือดขาวปกติ และโรคดังกล่าวหาย
ต่อมาคุณจิตติมาจึงศึกษาการเลี้ยงแพะ โดยได้เดินทางไปดูตามงาน ตามฟาร์มต่างๆ จากนั้นจึงคิดที่จะเลี้ยงแพะดู ก็เลยตัดสินใจลงทุนปลูกโรงเลี้ยงแพะขึ้นมาในบริเวณที่ดินที่ตนซื้อทิ้งไว้ จำนวน 4 ไร่
โดยการสั่งแพะพันธุ์ซาแนนเข้ามาเลี้ยง จำนวน 10 คู่ ต่อมาเมื่อกิจการเริ่มดีขึ้นก็ขยายปลูกโรงเลี้ยงขึ้นอีก จำนวน 1 โรงเลี้ยง โดยการรีดนมขายและส่งตามบ้านใกล้เคียง
หลังจากทำอาชีพนี้มาได้ 1 ปี มองดูการตลาดยังต้องไปได้อีกไกล จึงสั่งพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์เข้ามาอีก 10 คู่
หลัง จากนั้น ก็เริ่มหันมาจับอาชีพการเลี้ยงแพะอย่างจริงจัง โดยตั้งเป็นฟาร์มเลย ชื่อ “จิตติมาฟาร์ม” ซึ่งเปิดทำธุรกิจนี้มาได้ประมาณ 3 เดือน
“ในตอนนี้ที่ฟาร์มของเรา เริ่มจำหน่ายทั้งแพะนมและแพะเนื้อ เกษตรกรรายใดที่ต้องการนำไปเลี้ยงเป็นอาชีพเสริมทำได้ ส่วนการเลี้ยงแพะนั้นการลงทุนไม่สูงมากนัก เพราะอาหารที่ให้ก็มีแต่เพียงหญ้าแห้ง หญ้าสด ส่วนวิตามินบำรุง ข้าวโพดและกากถั่วเหลือง การจำหน่ายพันธุ์แพะนมและพันธุ์แพะเนื้อ อายุ 5-6 เดือน อดนมแล้ว จะขายอยู่ที่ตัวละ 5,000 บาท ดูลักษณะและความแข็งแรง รูปทรง และความสมบูรณ์
















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น