วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เรื่องเสือโครง


              เสือมีวิวัฒนาการมาจากเสือเขี้ยวดาบ ในยุคไอ
  โอซีนเมื่อประมาณ 40 ล้านปีก่อน และในประเทศไทยเคย
  มีการขุดพบซากฟอสซิลของเสือเขี้ยวดาบที่ อำเภอคลอง
  ท่อมจังหวัดกระบี่ เมื่อปี 2533 โดยพบว่ามีอายุอยู่ในช่วง
  ดังกล่าวแต่บรรพบุรุษของเสือที่แท้จริงเริ่มมีวิวัฒนาการ
  อย่างชัดเจนจากสัตว์ในกลุ่มฟีลิดี (Felidae) เมื่อประมาณ
  10 ล้านปีที่ผ่านมา ปัจจุบันสัตว์ที่อยู่ในวงศ์เดียวกันกับเสือ
  ได้แก่ สิงโต เสือชนิดต่างๆ และแมวชนิดต่างๆ

ธรรมชาติของเสือโคร่ง
             เสือโคร่งเป็นเสือที่มีขนาดใหญ่ วัดความ
ยาวจากหัวถึงก้นได้ประมาณ 170-229 เซนติเมตร
ความสูงของไหล่ประมาณ 95-110 เซนติเมตร
ขาหน้ามีโครงสร้างที่แข็งแรงกว่าขาหลัง มีอุ้งเท้าใหญ่ สามารถยึดหดกรงเล็บได้ ขนตามลำตัวมีสีน้ำตาลแกมเหลืองหรือเทาเหลือง ใต้ท้องมีสีขาว มีแถบลายพาดเป็นลายขวางตามลำตัว โดยแถบลายของเสือโคร่งแต่ละตัวจะมีความแตกต่างกัน ขนของเสือโคร่งจะเปลี่ยนลักษณะไปตามฤดูกาล ในฤดูร้อนขนจะสั้นและบาง ส่วนในฤดูหนาวขนจะยาว

อาหารที่ใช้เลี้ยงเสือ
             เสือเป็นสัตว์กินเนื้อเป็นอาหารหลัก ปริมาณอาหารที่เสือต้องการวันละประมาณ 2.5-5%
       ของน้ำหนักตัว ขึ้นอยู่กับอายุ เพศ และช่วงเวลาการตั้งท้อง สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงในการจัด
       อาหารแก่เสือ คือ ความสด สะอาด และสารอาหารเพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัย ทั้งนี้ควร
       มีสถานที่เตรียมอาหารโดยเฉพาะ สถานที่ละลายอาหารสดแช่แข็ง ชั่งน้ำหนักอาหารตามสัดส่วน
       ตวงส่วนผสม และบรรจุอาหารใส่ภาชนะที่ทำความสะอาดแล้ว การให้อาหารสามารถให้ได้แบบทั้ง
       ฝูงซึ่งง่ายและประหยัดเวลาและประหยัดอุปกรณ์ แต่เสืออาจได้รับอาหารไม่ทั่วถึง ส่วนวิธีให้อาหาร
       แบบเฉพาะตัวช่วยให้คำนวณปริมาณการกินที่แน่นอน ควบคุมอาหารได้ และช่วยให้มีโอกาสสังเกต
       ความผิดปกติของเสือแต่ละตัวได้ด้วย เวลาให้อาหารเสือส่วนใหญ่เป็นช่วงเย็น และเนื่องจากเสือมี
       กระเพาะอาหารที่เหมาะสมในการย่อยอาหารสด ฉะนั้นการให้อาหารที่ปรุงสุกแล้ว หรืออาหารชนิด
       อื่นที่มนุษย์กินจะทำให้เสือไม่ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น